กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: [1] 2 3 ... 10
1
มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ2 รองจากมะเร็งเต้านมในผู้หญิงไทย การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เป็นขั้นตอนสำคัญในการค้นหาโรคในระยะเริ่มต้นเพื่อให้สามารถรักษาและควบคุมโรคได้ในเวลาที่เหมาะสม

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก อายุเท่าไหร่ถึงควรเริ่ม
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คือการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก ก่อนที่จะเกิดความผิดปกติหรือแสดงอาการ เพื่อหารอยโรคระยะก่อนเป็นมะเร็ง หรือมะเร็งในระยะเริ่มแรก ทำให้สามารถป้องกันและรักษามะเร็งระยะเริ่มแรกอย่างได้ผล

ทั้งนี้มะเร็งปากมดลูก สามารถแบ่งได้เป็น 2 ระยะ คือ
ระยะเริ่มต้น สามารถตรวจคัดกรองตรวจมะเร็งปากมดลูกได้ โดยที่คนไข้ยังไม่มีอาการ
ระยะท้าย หรือคนไข้เริ่มมีอาการแสดง เช่นมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ มีอาการตกขาวเรื้อรัง หรือมีเลือดออกปนตกขาว อาการเหล่านี้เป็นอาการที่บ่งบอกว่าต้องรีบมาตรวจมะเร็งปากมดลูก เพราะถ้ามีอาการเหล่านี้แล้วปล่อยทิ้งไว้จนมีอาการปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด หรืออุจจาระเป็นเลือด จะเป็นลักษณะอาการที่เชื้อแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ยากต่อการรักษาและอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ในที่สุด



โดยทั่วไปควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเมื่ออายุ 30 ปี แต่อาจเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 25 ปี ตามความเหมาะสม และควรตรวจคัดกรองทุกทุก 1-2 ปี ในกรณีที่ตรวจด้วยวิธี Pap smear หรือ ThinPrep หากตรวจด้วยวิธีตรวจหาเชื่อ HPV DNA สามารถตรวจคัดกรองได้ทุก 3-5 ปี

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มีกี่แบบ
ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองตรวจมะเร็งปากมดลูกอยู่ 3 วิธี ได้แก่
1. ตรวจแปปเสมียร์ (Pap smear) เป็นวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดยสูตินรีแพทย์จะใช้เครื่องมือลักษณะคล้ายไม้พาย เก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกก่อนนำส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติหรือเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งอาจทำให้เกิดมะเร็งได้
2. การตรวจตินเพร็พ แป๊บเทสต์ (ThinPrep Pap Test) พัฒนามาจากการตรวจวิธีแปปเสมียร์ มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น โดยมีข้อมูลการศึกษาวิจัยจากสถาบันทั่วโลกพบว่าจากการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกโดยวิธี Thin prep จะให้ผลละเอียดกว่าการตรวจแบบเก่าวิธีแปปเสมียร์
3. การตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ด้วยวิธีการตรวจ DNA ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบเจาะลึกถึงระดับ DNA ด้วย Thin Prep Plus Cervista HPV DNA Testing เป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับตรวจดีเอ็นเอของเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ความสัมพันธ์กับการเป็นมะเร็งปากมดลูก ซึ่งสามารถตรวจพบความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ดีกว่าการตรวจ Pap smear อย่างเดียว เพราะสามารถเจาะลึกว่ามีการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นมะเร็งหรือไม่ ซึ่งจะช่วยบอกความเสี่ยงต่อการมีรอยโรคแอบแฝงได้เป็นอย่างดี

วิธีเตรียมตัวก่อนตรวจภายใน
1. สามารถตรวจภายในได้ทุกช่วงเวลา ยกเว้นช่วงที่มีประจำเดือน ควรงดตรวจในช่วงนั้น และรอหลังประจำเดือนหมดไปแล้วประมาณ 5 วัน หากมีอาการเลือดออกผิดปกติ สามารถมาตรวจได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ
2. หากมีตกขาวผิดปกติ ไม่ควรสอดยา ก่อนมาตรวจ เพราะยาอาจค้างในช่องคลอด และส่งผลให้ตรวจไม่ได้อย่างถูกต้อง
3. ทานอาหารและน้ำได้ตามปกติ ไม่ต้องงดก่อนตรวจ เพราะไม่มีผลกระทบต่อการตรวจภายใน
4. ควรปัสสาวะออกให้หมดก่อนตรวจ เพื่อให้แพทย์สามารถตรวจขนาดของมดลูกและปีกมดลูกได้ชัดเจนขึ้น
5. งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนตรวจ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อผลการตรวจ

การตรวจภายในเป็นประจำทุกปีจึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เราดูแลสุขภาพภายในได้อย่างใกล้ชิด และเมื่อพบความผิดปกติใดๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพิ่มโอกาสหายขาดและมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนตรวจสุขภาพประจำปี ราคา

2
การวางแผนเกษียณเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณมีชีวิตหลังเกษียณที่มั่นคงและสุขภาพดี เทคนิคและคำแนะนำในการวางแผนเกษียณ เพื่อให้สามารถเตรียมตัวและสร้างอนาคตที่มั่นคงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    1. เริ่มวางแผนแต่เนิ่นๆ
    ตั้งเป้าหมายทางการเงินและชีวิตในวัยเกษียณ
    เริ่มออมเงินเพื่ออนาคตตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้มีเงินออมเพียงพอ

    2. ประเมินความต้องการทางการเงินในวัยเกษียณ
    คำนวณค่าใช้จ่ายรายเดือนและรายปี
    คิดคำนวณเงินออมที่ต้องการเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายเหล่านั้น

    3. วางแผนการออมและการลงทุน
    เลือกแผนการออมที่เหมาะสม เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนรวม, หุ้น
    กระจายการลงทุนเพื่อความเสี่ยงที่ต่ำลง



    4. ศึกษาและวางแผนด้านสุขภาพ
    จัดทำประกันสุขภาพและวางแผนการดูแลสุขภาพในอนาคตประกันชีวิตผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไป
    ออกกำลังกายและรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ

    5. พัฒนาทักษะและความสามารถใหม่
    ฝึกฝนทักษะเพื่อสร้างรายได้เสริมในวัยเกษียณ
    วางแผนการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

    6. การวางแผนด้านที่อยู่อาศัย
    คิดคำนวณค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยในวัยเกษียณ
    พิจารณาย้ายไปยังที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมหรือปรับปรุงบ้านให้เหมาะสมกับวัย

    7. การวางแผนทางด้านภาษีและมรดก
    เข้าใจสิทธิประโยชน์ทางภาษีและวางแผนบริหารทรัพย์สิน
    จัดทำพินัยกรรมและวางแผนส่งต่อทรัพย์สิน

การวางแผนเกษียณเป็นกระบวนการที่ต้องเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้มีชีวิตหลังเกษียณที่สุขสบายและไร้กังวล ควรจัดทำแผนอย่างเป็นระบบและปรับปรุงตามความเปลี่ยนแปลงของชีวิตและเศรษฐกิจ เพื่อความมั่นคงในอนาคต

3
+ข่าวสารอัพเดท / Mocha Mousse จับคู่สีแห่งปีที่เปลี่ยนทุกลุคให้เก๋สุด
« กระทู้ล่าสุด โดย febru เมื่อ กรกฎาคม 21, 2025, 02:17:59 PM »
เมื่อพูดถึงเสื้อผ้าแฟชั่นในปีนี้ ต้องไม่พลาดกับโทนสีแห่งปี 2025 สี Mocha Mousse เป็นหนึ่งในสีที่มีอิทธิพลมากที่สุดในวงการแฟชั่น! ด้วยโทนสีน้ำตาลอุ่นๆ ที่เต็มไปด้วยความคลาสสิกและนุ่มนวล สีนี้ไม่ได้เพียงแค่ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ยังสามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับสีอื่นๆ ได้อย่างลงตัว และยังสามารถเปลี่ยนลุคของคุณให้ดูเก๋และมีสไตล์มากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
 
คู่สีที่ลงตัวกับ Mocha Mousse โทนสี Mocha Mousse เป็นสีที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถจับคู่ได้หลากหลายสไตล์และอารมณ์ ตามความต้องการของแต่ละคน ด้วยความอุ่นที่มีอยู่ในสีนี้ เราสามารถจับคู่กับหลายๆ สีได้อย่างลงตัว ลองมาดูกันว่าแต่ละสีที่จับคู่กับ Mocha Mousse จะเพิ่มความโดดเด่นให้กับลุคของคุณได้อย่างไร



สีฟ้า: สดใส ชิคแบบมีชีวิตชีวา
การจับคู่ Mocha Mousse กับสีฟ้าคือการผสมผสานระหว่างความอบอุ่นและความสดใสที่มีชีวิตชีวา สีฟ้าอ่อนหรือฟ้าครามสามารถช่วยทำให้ลุคของคุณดูสนุกสนานและมีความสดใสขึ้นในทันที ลุคนี้เหมาะมากกับการใส่ในวันทำงานที่ต้องการความสดชื่น หรือในวันหยุดที่อยากให้ลุคดูสบายๆ และชิคไปพร้อมกัน clothing store

สีแดงสด: โดดเด่น มั่นใจ มีพลัง
ถ้าคุณต้องการลุคที่โดดเด่นและมั่นใจ การจับคู่ Mocha Mousse กับสีแดงสดจะทำให้ทุกสายตาหันมามองคุณทันที ความเผ็ดร้อนของสีแดงสดจะช่วยเพิ่มพลังและความมีเสน่ห์ให้กับโทนสี Mocha Mousse อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นการสร้างลุคที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและพลังงานบวกอย่างไม่ต้องสงสัย

สียีนส์เดนิม: คลาสสิก เท่ ใส่ได้ทุกวัน
ถ้าพูดถึงสีที่เป็นอมตะในวงการแฟชั่น คงต้องยกให้กับ สียีนส์เดนิม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสีที่เข้ากันได้ดีมากกับ Mocha Mousse ทั้งนี้ การจับคู่สีนี้ให้ความรู้สึกถึงความเท่และคลาสสิกสุดๆ ลุคนี้เหมาะสำหรับการแต่งตัวในทุกๆ วัน ตั้งแต่วันทำงานไปจนถึงการออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ สีเดนิมจะช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติให้กับโทนสี Mocha Mousse ที่อบอุ่นได้อย่างดี

สีครีม: เรียบหรู อบอุ่น นุ่มนวล
ถ้าคุณชื่นชอบความเรียบหรูและอบอุ่น สีครีม คือตัวเลือกที่ดีเยี่ยมในการจับคู่กับ Mocha Mousse สีครีมช่วยเสริมให้ลุคดูนุ่มนวลและสบายตา พร้อมทั้งสร้างความรู้สึกที่อบอุ่นและหรูหราไปพร้อมๆ กัน ลุคนี้เหมาะมากสำหรับการแต่งตัวในวันพิเศษหรือวันทำงานที่อยากได้ความดูดีแต่ไม่ดูเว่อร์จนเกินไป

สีเทา: สุขุม มีเสน่ห์ ดูผู้ใหญ่
การจับคู่ Mocha Mousse กับ สีเทา จะสร้างลุคที่ดูมีเสน่ห์และสุขุมเหมาะสำหรับคนที่อยากให้ลุคดูเป็นทางการและน่าเชื่อถือ สีเทาจะช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับสี Mocha Mousse ที่ดูอบอุ่น ให้อารมณ์ที่ผู้ใหญ่มากขึ้น จึงเหมาะมากกับการแต่งตัวในโอกาสที่ต้องการให้ดูเป็นผู้ใหญ่ และไม่อยากให้ลุคดูเยอะเกินไป

การจับคู่สี Mocha Mousse กับสีอื่นๆ ไม่เพียงแต่เพิ่มความเก๋ให้กับลุคของคุณ แต่ยังช่วยเสริมความเป็นตัวของตัวเองในสไตล์ต่างๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นความสดใสจากสีฟ้า ความมั่นใจจากสีแดง หรือความเท่จากสียีนส์เดนิม Mocha Mousse คือสีแห่งปีที่สามารถเติมเต็มทุกลุคให้ดูมีเสน่ห์และไม่ซ้ำใครได้อย่างง่ายดาย และไม่ว่าคุณจะเลือกคู่สีไหน ก็สามารถสร้างลุคที่โดดเด่นและมีสไตล์ได้อย่างแน่นอน!
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ชอปปิงร้านเสื้อผ้าที่สามารถเติมเต็มทุกความต้องการด้านแฟชั่นและราคาสุดคุ้ม แพลทินัมแฟชั่น มอลล์ มาที่นี่เพื่อช้อปสินค้าดีๆ และมีสไตล์ในราคาที่คุณพอใจ แล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
4
การอาบน้ำเป็นกิจวัตรประจำวันที่สำคัญสำหรับคนส่วนใหญ่ และหัวฝักบัวอาบน้ำที่เลือกใช้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการอาบน้ำของคุณ รวมถึงการใช้น้ำด้วย ผลกระทบจากการใช้น้ำเกินความจำเป็นไม่ได้มีแค่ผลกระทบกับค่าใช้จ่าย แต่ยังส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมในวงกว้างอีกด้วย ในขณะที่ค่าน้ำของเราเพิ่มสูงขึ้น แต่ปริมาณน้ำบนโลกก็ลดลงอย่างน่ากังวล  นี่คือเหตุผลที่การเลือกอุปกรณ์ในบ้านของเราอย่างมีข้อมูลและรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญ เราจะสำรวจวิธีการเลือกหัวฝักบัวที่ประหยัดน้ำและเหมาะสมสำหรับห้องน้ำ



อย่างที่อาจทราบแล้ว ไม่ใช่หัวฝักบัวทุกชนิดที่จะช่วยประหยัดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ฝักบัวอาบน้ํารุ่นใหม่หลายรุ่นถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติประหยัดน้ำ เช่น ตัวเติมอากาศ (aerator) และตัวจำกัดการไหล (flow restrictor) เพื่อจำกัดการใช้น้ำโดยไม่ลดทอนคุณภาพของการอาบน้ำ เป็นแนวทางเบื้องต้นในการเลือกหัวฝักบัวใหม่ ควรมองหาหัวฝักบัวที่มีระดับคะแนน WELS (Water Efficiency Labelling Scheme) ซึ่งบ่งบอกความสามารถในการประหยัดน้ำของหัวฝักบัว ยิ่งคะแนน WELS สูงเท่าไหร่ หัวฝักบัวก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการใช้น้ำน้อยลงเท่านั้น มีหัวฝักบัวที่ล้ำสมัยหลากหลายแบบ ตั้งแต่หัวฝักบัวแบบมือจนถึงหัวฝักบัวแบบฝน ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีประหยัดน้ำที่กล่าวมาแล้ว

ในทางตรงกันข้ามกับความเข้าใจผิดทั่วไป ขนาดของหัวฝักบัวไม่ได้สัมพันธ์กับการไหลของน้ำเสมอไป การไหลของน้ำขึ้นอยู่กับการออกแบบและชิ้นส่วนภายในของหัวฝักบัว หัวฝักบัวขนาดใหญ่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้น้ำมากขึ้นเสมอไป ในทางตรงกันข้าม หัวฝักบัวขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาอย่างดีอาจสามารถกระจายและใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดการใช้น้ำโดยรวมได้

เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลนักที่จะสมมติว่าหัวฝักบัวแรงดันสูงจะใช้น้ำมากขึ้น แต่ในความเป็นจริง หัวฝักบัวอาบน้ําแบบนี้ได้รับการออกแบบให้สร้างน้ำที่แรง และทรงพลังโดยไม่เพิ่มการใช้น้ำในปริมาณมาก เทคโนโลยีนี้ใช้การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีเสริมแรงดันและคุณสมบัติประหยัดน้ำ เพื่อให้ทั้งครอบครัวได้สัมผัสการอาบน้ำที่สดชื่น และเต็มอิ่มได้อย่างมีความสุข
5
+ข่าวสารอัพเดท / ค้นหาคลินิกกายภาพบำบัดคุณภาพใกล้ตัวคุณ
« กระทู้ล่าสุด โดย damonshoppu เมื่อ กรกฎาคม 16, 2025, 03:28:25 PM »
การดูแลสุขภาพร่างกายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเมื่อคุณเผชิญกับอาการปวดกล้ามเนื้อ ข้อต่อ หรือการบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหว การเลือก คลินิกกายภาพบำบัด ใกล้ฉัน ที่มีคุณภาพสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายและเพิ่มความแข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบำบัดด้วยวิธีกายภาพไม่เพียงช่วยลดอาการปวด แต่ยังส่งเสริมการเคลื่อนไหวและป้องกันการบาดเจ็บในอนาคต



เหตุใดจึงควรเลือกกายภาพบำบัด

การทำ กายภาพบำบัด ใกล้ฉัน เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บ เช่น อาการปวดหลัง ปวดคอ หรือการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงท่าทางหรือเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย การบำบัดโดยนักกายภาพบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

การเลือกคลินิกที่มีบริการครบวงจรและอยู่ใกล้บ้านช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับการรักษา คุณสามารถค้นหา คลินิกกายภาพ ใกล้ฉัน ที่มีทีมงานมืออาชีพและเครื่องมือทันสมัยเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด การได้รับคำแนะนำจากนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเองและวิธีการดูแลอย่างถูกต้อง

คลินิกที่ราคาเข้าถึงได้

หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกคลินิกคือค่าใช้จ่าย การค้นหา คลินิกกายภาพบำบัด ราคาไม่แพง ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องยอมรับบริการที่ด้อยคุณภาพ คลินิกที่ดีจะนำเสนอบริการที่มีมาตรฐานในราคาที่สมเหตุสมผล คุณสามารถเปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจการรักษาเพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ การลงทุนในสุขภาพด้วยการบำบัดที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว



บริการที่ครบครันและทันสมัย

เมื่อเลือก คลินิกกายภาพบำบัด ควรพิจารณาคลินิกที่มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงทีมนักกายภาพบำบัดที่มีความรู้และประสบการณ์ คลินิกชั้นนำมักมีบริการหลากหลาย เช่น การนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟู การใช้เครื่องมือไฟฟ้าเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อ หรือการบำบัดด้วยความร้อนและความเย็น การเลือกคลินิกที่มีบริการครบวงจรจะช่วยให้คุณได้รับการดูแลที่เหมาะสมกับความต้องการ

นอกจากนี้ การเลือกคลินิกที่ให้ความสำคัญกับการดูแลแบบเฉพาะบุคคลจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นักกายภาพบำบัดจะประเมินอาการของคุณอย่างละเอียดและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นปกติโดยเร็วที่สุด



การดูแลสุขภาพในระยะยาว

การทำกายภาพบำบัดไม่ใช่เพียงการรักษาอาการปวดในระยะสั้น แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต การออกกำลังกายที่แนะนำโดยนักกายภาพบำบัดจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ทำให้ร่างกายของคุณแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น การดูแลอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บซ้ำและเพิ่มคุณภาพชีวิตโดยรวม

การค้นหาคลินิกที่อยู่ใกล้บ้านและมีบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ การจัดการกับอาการปวดเรื้อรัง หรือการเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย คลินิกที่มีคุณภาพจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพได้อย่างมั่นใจ

สรุป

การเลือกคลินิกกายภาพบำบัดที่เหมาะสมเป็นก้าวแรกสู่การมีสุขภาพที่ดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาการรักษาอาการบาดเจ็บหรือต้องการปรับปรุงความแข็งแรงของร่างกาย การเลือกคลินิกที่มีบริการครบครัน ราคาเหมาะสม และตั้งอยู่ใกล้คุณจะช่วยให้การรักษราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ค้นหาคลินิกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณวันนี้เพื่อเริ่มต้นการดูแลสุขภาพอย่างมืออาชีพ

ปรึกษากายภาพบำบัด (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

- Add LINE: @peace-clinic               
- Facebook: พีซ คลินิกกายภาพบำบัด, มนุษย์ตึง
- TikTok: มนุษย์ตึง By พีซคลินิก
6
โรคผิวหนังเด็ก ลูกมีผื่นคันขึ้นตามตัว แต่ไม่มีไข้ โรคผิวหนังอักเสบ เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็ก ลูกมีผื่นคันขึ้นตามตัว แต่ไม่มีไข้ มักจะเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังอยู่นาน เป็นได้ตั้งแต่เด็กอายุ 3 เดือนขึ้นไป จนถึงช่วงวัยรุ่น หรือในผู้ใหญ่
ลักษณะของผื่นแพ้



ในเด็กเล็ก (1 ปีแรก) ลูกมีผื่นคันขึ้นตามตัว แต่ไม่มีไข้จะมีผื่นแดงที่หน้า,คอ,แขน+ขา บริเวณศอก+เข่า เด็กจะมีอาการคันมากขึ้นอาจจะมีสะเก็ดหรือน้ำเหลืองไหลเยิ้มที่ผื่นได้
ในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ จะเป็นผื่นแดงที่คอ ข้อพับแขน+ขา หรือลำตัว ถ้าเกามากก็จะเป็นปื้นหนาได้ในบางรายอาจอาจพบร่วมกับผิวหนังอื่น ๆ ได้ เช่น กลากน้ำนม สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่อาจเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม เช่น มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด แพ้อากาศหรือผิวหนังอักเสบภูมิแพ้
ปัจจัยหรือตัวกระตุ้นที่ทำให้โรคเป็นมากขึ้น

    *สารระคายเคืองต่าง ๆ เช่น ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ ไรฝุ่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม คลอรีนในสระว่ายน้ำ สบู่หอม ครีมบำรุงผิวหรือโลชั่นต่าง ๆ
    *ภาวะติดเชื้อ จากแบคทีเรียหรือเชื้อรา เช่น การเกามากจนเป็นแผล ตุ่มหนองหรือมีผื่นแดงเป็นวงขอบยกนูน และคันมากจากเชื้อรา
    *อากาศร้อน หรือการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก และอากาศหนาวเย็นทำให้ผิวหนังแหงมากขึ้น
    *ความเครียด วิตกกังวล การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในชีวิต เช่น ในเด็กที่ย้ายโรงเรียนใหม่หรือช่วงใกล้สอบ
    *อาหารบางชนิด ที่มักแพ้ได้บ่อยในเด็กเล็ก ๆ เช่น นมวัว ไข่ขาว ถั่ว อาหารทะเล

การรักษา
    หลีกเลี่ยงปัจจัย หรือตัวกระตุ้นต่าง ๆ ข้างต้น
    การใช้ยาทากลุ่ม Steroid อย่างอ่อน แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาเพราะต้องมีการปรับยาเป็นระยะ ๆ ตามอาการของโรค
    การให้ยารับประทานพวก Antihistamine เพื่อลดอาการคัน
    ในกรณีที่มีภาวะติดเชื้อแทรกซ้อน เช่น ลูกมีผื่นคันขึ้นตามตัว แต่ไม่มีไข้ มีตุ่มหนอง เป็นแผลหรือผื่นแดงมากขึ้น ควรปรึกษาหมอเด็ก
7

หากต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมหมอกระดูกและข้อ เพื่อดูแลรักษาอาการบาดเจ็บ ข้อเสื่อม หรือปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อเป็นคำตอบที่ควรพิจารณา
ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการรักษาโรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ ศัลยแพทย์เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีความสุขอีกครั้ง



ศัลยแพทย์กระดูกและข้อคือใคร?
ศัลยแพทย์กระดูกและข้อเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการวินิจฉัยและการรักษาโรคและอาการบาดเจ็บของกระดูก ข้อ กระดูกสันหลัง และเนื้อเยื่อรอบข้าง โดยใช้เทคนิคการผ่าตัด การฉีดรักษา
การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการดูแลหลังผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
บริการของศัลยแพทย์กระดูกและข้อ

    การรักษาโรคข้อเสื่อมและโรคข้ออักเสบ
    การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพก
    การซ่อมแซมกระดูกหักและอุบัติเหตุ
    การรักษาอาการเจ็บปวดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน
    การดูแลฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัด
    การตรวจวินิจฉัยและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหากระดูกและข้อ

เหตุผลที่ควรเลือกศัลยแพทย์กระดูกและข้อมืออาชีพ
    หมอศัลยกรรมที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญสูง
    เทคโนโลยีทันสมัยในการวินิจฉัยและรักษา
    คำแนะนำและการดูแลหลังผ่าตัดที่ดีเยี่ยม
    การรักษาที่เน้นความปลอดภัยและผลลัพธ์ระยะยาว

คำแนะนำก่อนเข้ารับการรักษา
    นัดหมายพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา
    แจ้งประวัติการเจ็บป่วยและข้อมูลทางการแพทย์ให้ครบถ้วน
    ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
8
+ข่าวสารอัพเดท / เริ่มทำ Ulthera อัลเทอร์ร่า ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ดี
« กระทู้ล่าสุด โดย febru เมื่อ กรกฎาคม 14, 2025, 04:37:15 PM »
เครื่อง Ulthera อัลเทอร์ร่า ควรเริ่มทำเมื่อเริ่มมีสัญญาณของ ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือคอลลาเจนเริ่มลดลง ซึ่งโดยเฉลี่ยมักอยู่ที่ช่วงอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่คอลลาเจนเริ่มเสื่อมถอยอย่างชัดเจนโครงสร้างผิวเริ่มบางลง กรอบหน้าเริ่มไม่ชัด แก้มเริ่มตก แต่ก็สามารถเริ่มได้ตั้งแต่อายุ 24-25 ปี หากมีปัจจัยอื่นๆ เช่น หน้าเริ่มหย่อนเร็วจากพันธุกรรม ลดน้ำหนักไวทำให้หน้าตอบลง แก้มห้อย เจอแสงแดด มีความเครียด หรือพักผ่อนไม่พอเป็นประจำทำให้เกิดความเสื่อมของคอลลาเจนใต้ผิว ใช้หน้าทำงานเยอะ (เช่น พูดบ่อย แสดงสีหน้ามาก)



ข้อดีของการทำ Ulthera อัลเทอร์ร่า ตั้งแต่อายุยังไม่มาก (ประมาณ 25-35 ปี)
1. กระตุ้นคอลลาเจนได้ทันก่อนผิวเสื่อม พลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผลคือ ผิวยังแข็งแรง ยืดหยุ่นดี ดูเฟิร์มต่อเนื่องในระยะยาว

2. รักษากรอบหน้าและโครงสร้างหน้าไว้ได้นานขึ้น เมื่อยังไม่มีแก้มตกมาก การยิง Ulthera จะช่วย “ล็อกหน้า” ให้อยู่ทรง หน้าจะดูสดใส ไม่โทรมเร็ว ไม่ต้องใช้หัตการอื่นเสริมเยอะ

3. ให้ผลลัพธ์ที่ดู "ธรรมชาติ" กว่า ยิ่งผิวเสื่อมน้อย การยิงจะเห็นผลเร็วและละมุน ไม่เปลี่ยนหน้าชัดแบบฮวบฮาบ ไม่ต้องใช้พลังงานแรงมาก ยิงแล้วสบายกว่า ไม่เจ็บมาก

4. ค่าใช้จ่ายระยะยาวอาจถูกกว่าเพราะไม่ต้องใช้หลายเทคโนโลยีมาผสม หรือทำซ้ำถี่ ๆ แบบคนที่ผิวเสื่อมแล้ว ปีละครั้งก็เอาอยู่ ไม่ต้องฟื้นฟูเยอะ เมื่อเปรียบเทียบกับการเริ่มทำตอนอายุมาก (40–50 ปีขึ้นไป)

สรุปสั้น ๆ ว่า ยิ่งเริ่มดูแลเร็ว ผิวยิ่งอยู่กับเราได้นานแบบไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม เหมือนเรา "วางระบบกันทรุด"  ให้กับผิวตั้งแต่ยังดีอยู่ การเริ่มใช้ ulthera ยกกระชับหน้าตั้งแต่อายุน้อยก็เหมือนเป็นการลงทุนเก็งกำไรให้ผิวในระยะยาวนั่นเอง
9
+ข่าวสารอัพเดท / โถปัสสาวะชาย เทคโนโลยีเพื่อความสะอาด
« กระทู้ล่าสุด โดย febru เมื่อ กรกฎาคม 11, 2025, 02:32:36 PM »
โถปัสสาวะชายเป็นสุขภัณฑ์ที่พบเห็นได้ในห้องน้ำสาธารณะ และมักมีขนาดใหญ่ ทำให้ไม่ค่อยนิยมใช้ภายในบ้านมากนัก แต่ปัจจุบันโถปัสสาวะชายถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดมากขึ้น หลายครอบครัวจึงเลือกติดตั้งโถปัสสาวะชายไว้ที่บ้านเพื่อความสะดวกสบายด้วยเช่นกัน

ประเภทของโถปัสสาวะชาย
1. โถปัสสาวะชายแบบแขวนผนัง
เป็นโถปัสสาวะที่เหมาะกับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด เพราะมีขนาดกะทัดรัดและติดตั้งได้ง่าย โดยใช้ตะขอยึดผนังเพื่อแขวนติดตั้ง และแบบพุกยึดผนังกับโถปัสสาวะ
2. โถปัสสาวะชายแบบตั้งพื้น
เป็นโถปัสสาวะที่สามารถติดตั้งโดยใช้วิธียึดตัวโถเข้ากับพื้นส่วนใหญ่ นิยมใช้โถปัสสาวะที่มีท่อน้ำทิ้งแบบเข้าผนัง เพราะติดตั้งได้ง่ายและสะดวก




จุดเด่นของโถปัสสาวะชาย ช่วยแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน
โถปัสสาวะชายช่วยให้พื้นที่ห้องน้ำแบ่งเป็นสัดส่วนได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการตกแต่งแบบแยกส่วนเปียก และส่วนแห้งทำความสะอาดง่าย

โถปัสสาวะชายช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องคราบที่อาจเกิดขึ้นบนโถสุขภัณฑ์หรือน้ำกระเซ็นเปื้อนพื้น นอกจากนี้ตัวโถปัสสาวะยังมีการเคลือบสาร CEFIONTECT ซึ่งทำให้สุขภัณฑ์เรียบลื่นขจัดสิ่งสกปรกได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับฟลัชวาล์วระบบเซ็นเซอร์ในตัวที่มาพร้อมระบบชำระล้างอัตโนมัติ ช่วยให้คุณไม่ต้องสัมผัสปุ่มกดหรือก้านกดชำระหลังจากใช้งาน ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโรค รวมถึงหมดกังวลกับปัญหาเรื่องการลืมกดชำระไปได้เลย
ประหยัดน้ำ

โถปัสสาวะชายนั้นใช้น้ำน้อยกว่าการชำระล้างของโถสุขภัณฑ์ทั่วไปจึงได้เพิ่มเทคโนโลยี EWATER+ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้น้ำผ่านกระบวนการอิเล็กโตรไลซ์ มีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งทำให้ชำระล้างโถปัสสาวะได้สะอาดหมดจด

5 เทคนิคในการเลือกซื้อโถปัสสาวะชาย

1. พื้นที่สำหรับติดตั้งโถปัสสาวะชาย
ควรเลือกโถปัสสาวะชายให้เหมาะกับขนาดห้องน้ำ โดยโถปัสสาวะแบบตั้งพื้นเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป และได้ทุกวัย ตัวโถจึงมักมีขนาดใหญ่กว่าแบบแขวนผนังที่เหมาะสำหรับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันโถปัสสาวะชายแบบตั้งพื้นก็ได้รับการพัฒนาและออกแบบให้มีขนาดเล็กลง เหมาะสำหรับติดตั้งในบ้านมากยิ่งขึ้น

2. ระบบชำระล้าง
ควรเลือกใช้โถปัสสาวะชายที่มีระบบชำระล้างหมดจดโดยไม่ทิ้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ และควรเลือกแบบที่ใช้น้ำน้อยกว่าโถสุขภัณฑ์ทั่วไป ที่จะช่วยประหยัดน้ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

3. ดีไซน์ของโถปัสสาวะชาย
เลือกดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์ของห้องน้ำของคุณ เช่น ดีไซน์โมเดิร์น เรียบง่าย

4. ฟังก์ชั่นเสริม
สุขภัณฑ์ห้องน้ํา นอกจากระบบชำระล้างและระบบประหยัดน้ำแล้ว การเลือกโถปัสสาวะชายก็ควรดูที่ฟังก์ชั่นอื่น ๆ ด้วย เช่น ระบบเซ็นเซอร์ที่ช่วยชำระล้างอัตโนมัติ ระบบประหยัดไฟ ไปจนถึงระบบที่ช่วยสร้างน้ำบริสุทธิ์ภายในตัวโถ ช่วยให้โถปัสสาวะสะอาดมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี

5. การทำความสะอาด
สุดท้าย คือ การทำความสะอาด ควรเลือกใช้โถปัสสาวะชายที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย มีพื้นผิวเรียบลื่นเป็นพิเศษ ช่วยให้คราบสกปรกและเชื้อโรคที่มองไม่เห็นเกาะติดได้ยาก อีกทั้งยังลดปริมาณการใช้สารเคมีสำหรับทำความสะอาดได้อีกด้วย
10
+ข่าวสารอัพเดท / RSV ไวรัสร้ายในหน้าฝนของเด็กเล็ก
« กระทู้ล่าสุด โดย febru เมื่อ กรกฎาคม 09, 2025, 11:26:21 AM »
อาการ rsv ในเด็กอาการคล้ายไข้หวัด ผู้ป่วยมีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล อาจส่งผลให้ทางเดินหายใจส่วนล่างมีการอักเสบ ทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดบวม หรือปอดอักเสบ ในรายที่อาการรุนแรง อาจมีไข้สูง ไอแรง หายใจมีเสียงครืดคราด หอบเหนื่อย หากผู้ป่วยมีไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส ไอจนอาเจียน หายใจเร็ว หอบจนชายโครงหรืออกบุ๋ม หายใจแล้วมีเสียงวี้ด รับประทานอาหารหรือนมได้น้อย ต้องพึงระวัง เพราะผู้ป่วยที่มีอาการหนักอาจเสียชีวิตเนื่องจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้

RSV สามารถติดต่อจากผู้ใหญ่สู่เด็กได้ง่าย
โดยเฉพาะเมื่อผู้ใหญ่ที่เป็นพาหะพบเห็นเด็กแล้วเอามือไปจับแก้ม หอมแก้มเด็ก โดยไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายให้ดีเสียก่อน ก็อาจทำให้เด็กได้รับเชื่ออย่างไม่ทันรู้ตัว

RSV สามารถป้องกันการติดเชื้อ
โดยการหมั่นล้างมือของตัวเองและของเด็ก ๆ เพราะการล้างมือจะทำให้เชื้อที่ติดมากับมือลดน้อยลง รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ บ้านใดที่มี อาการ rsv ในเด็ก แนะนำให้แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติและให้เด็กป่วยหยุดเรียนเพื่อลดการนำเชื้อไปแพร่สู่เพื่อนที่โรงเรียน



อาการ RSV ในเด็ก สาเหตุ และวิธีป้องกันอย่างได้ผล
เชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นสาเหตุหลักของโรคระบบทางเดินหายใจในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวและปลายฝน ถึงแม้จะเป็นโรคที่พบบ่อย แต่ก็สามารถป้องกันและดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากรู้จักอาการ สาเหตุ และวิธีป้องกันอย่างถูกวิธี
อาการ RSV ในเด็ก มีอะไรบ้าง

อาการของโรค RSV ในเด็กอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละราย แต่โดยทั่วไปมักมีอาการดังนี้
    - ไอเรื้อรังและมีเสมหะมาก
    - มีไข้ต่ำถึงปานกลาง
    - หายใจลำบาก หอบเหนื่อย หายใจเร็ว
    - จมูกอักเสบ คัดจมูก
    - มีเสียงหวีดหรือเสียงวี้ดขณะหายใจ (Wheezing)
    - เบื่ออาหาร หงุดหงิด งอแง
    - ในกรณีรุนแรง อาจเกิดภาวะหายใจลำบากหรือปอดอักเสบ

สาเหตุของ RSV ในเด็ก
เชื้อไวรัส RSV ติดต่อได้ง่ายและเป็นสาเหตุหลักของโรคทางเดินหายใจในเด็กเล็ก โดยสาเหตุหลักได้แก่
    - การสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจของผู้ป่วย RSV เช่น น้ำมูก เสมหะ ไอจาม
    - การใช้ของใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าห่ม ของเล่นมือหยิบจับบ่อย ๆ
    - การอยู่ในสถานที่แออัด เช่น โรงเรียน คลินิก สถานรับเลี้ยงเด็ก
    - การไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสเด็กเล็ก

วิธีป้องกัน RSV ในเด็กอย่างได้ผล
เพื่อป้องกันการติดเชื้อ RSV และลดความเสี่ยงในการเกิดโรครุนแรง ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้
    1. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด
    2. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม
    3. ทำความสะอาดของใช้ ของเล่น ของใช้ส่วนตัวของเด็กเป็นประจำ
    4. ระมัดระวังในสถานที่แออัด ควรเว้นระยะห่างจากผู้ป่วย
    5. สวมหน้ากากอนามัยให้กับผู้ดูแลเด็กและผู้ป่วย
    6. ให้เด็กพักผ่อนเพียงพอ และเสริมภูมิคุ้มกันด้วยอาหารที่มีประโยชน์
    7. สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงสูง เช่น น้ำหนักน้อย คลอดก่อนกำหนด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับวัคซีนป้องกัน RSV (ถ้ามี)

เมื่อเด็กมีอาการควรรีบพบแพทย์ทันที
หากเด็กมีอาการไอเรื้อรัง หายใจเร็ว หอบเหนื่อย หรืองอแงผิดปกติ ควรพาไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลอย่างเหมาะสม อย่าเพิกเฉยต่ออาการรุนแรง เพราะอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ คลินิกเด็ก เปิด 24 ชั่วโมง ใกล้ ฉัน

หน้า: [1] 2 3 ... 10